ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างดับกลิ่นและเหงื่อ

การโฆษณาสอนเรามานานแล้วว่าเหงื่อออกเป็นกระบวนการที่ต้องละอายใจและปรากฏการณ์นี้ควรใช้ร่วมกับยาดับกลิ่นและเหงื่อ ในใจของหลาย ๆ คนผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีลักษณะคล้ายกันมากหากไม่เหมือนกัน แต่หลังจากแนวคิดทั้งหมดแตกต่างกันและไม่ใช้สองคำที่ต่างกัน เพื่อให้ได้มากขึ้นจากขวดที่มีของเหลวลึกลับลองหาว่าผลของมันคืออะไรและแตกต่างกันอย่างไร

ตรรกะอย่างง่ายแสดงให้เห็นว่าชื่อที่แตกต่างกันสองชื่อควรระบุแนวคิดที่แตกต่างกัน เพื่อให้เข้าใจว่าสิ่งนี้เป็นเช่นนั้นหรือไม่เราจึงเปลี่ยนคำจำกัดความของแนวคิดทั้งสองเพื่อพยายามค้นหาความแตกต่าง

ชื่อ "ยาดับกลิ่น" มาจากภาษาละตินและสามารถแปลโดยประมาณว่าเป็น "สารกำจัดกลิ่น" ในคำง่ายๆนี้ ปลั๊กอะโรมาติกที่มีกลิ่นตัวแรงจากในหมู่คนที่พอใจ: การใช้เครื่องมือดังกล่าวทำให้คุณยังคงเหงื่อออกต่อไปเพียงกลิ่นของยาดับกลิ่นก็จะรุนแรงขึ้นและขัดขวางคู่แข่งใด ๆ ในความเป็นจริงแล้วผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายนั้นรวมไปถึงเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งรวมถึงน้ำหอมและน้ำหอมปรับอากาศแบบเดียวกัน

Deodorants ถ้าเราจัดอันดับน้ำหอมธรรมดาในหมู่พวกเขาเกิดขึ้นหลายศตวรรษที่ผ่านมา แต่แนวคิดของเหงื่อปรากฏค่อนข้างเร็ว - เฉพาะใน 80s ของศตวรรษที่ผ่านมา สารที่อาจเรียกได้ว่าเป็นคำเดียวกันนั้นมีอยู่ก่อนหน้านี้เล็กน้อย แต่ในเวลานั้นพวกเขาถูกเรียกว่า สาระสำคัญของยาเสพติดก็คือมันมีหลักการที่แตกต่างกันของการกระทำ - เน้นไม่ได้มากในการปิดบังกลิ่น แต่ในการต่อสู้กับเหงื่อ

เหงื่อของตัวเองมักจะไม่มีกลิ่นเด่นชัด แต่มันเป็นสื่อที่เหมาะสมสำหรับการแพร่กระจายของเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อราซึ่งผลิตภัณฑ์ที่สำคัญให้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ลักษณะ ดังนั้นการไม่มีเหงื่อส่งผลทางอ้อมต่อการกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และยังช่วยป้องกันบุคคลจากการปรากฏตัวของจุดเปียกบนเสื้อผ้า

เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่า ในโลกสมัยใหม่ไม่มีเหงื่อในรูปแบบบริสุทธิ์ของพวกเขา - พวกเขาทั้งหมดเป็นยาดับกลิ่นเหงื่อเนื่องจากพวกเขามีองค์ประกอบที่ซับซ้อนมุ่งเป้าไปที่การลดเหงื่อออกและกำบังกลิ่นไม่พึงประสงค์ สำหรับระงับกลิ่นกายตามปกติพวกเขาไม่ได้หายไปพวกเขาก็ไม่ได้มีฟังก์ชั่นของการปิดกั้นเหงื่อออก เหงื่อซึ่งแตกต่างจากยาดับกลิ่นสามัญสามารถได้รับการพิจารณายาเสพติดและบางครั้งก็มีการกำหนดโดยแพทย์ในการต่อสู้กับเหงื่อออกมาก - ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าเหงื่อออกมากเกินไป

ด้วยความแตกต่างในหลักการของการใช้งานจึงไม่น่าแปลกใจที่ส่วนประกอบทางเคมีของยาดับกลิ่นจะแตกต่างจากเหงื่อ ระงับกลิ่นกายคลาสสิกเป็นหลักประเภทของกลิ่นหอมหรือชุดของหลายคนที่มีกลิ่นหอมที่แข็งแกร่งที่สามารถป้องกันกลิ่นอื่น ๆ แน่นอนว่าสูตรอาหารที่ทันสมัยมีความซับซ้อนมากขึ้นพวกเขาอาจรวมถึงส่วนผสมที่ซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากมีการปรับปรุงกลิ่นหอมของน้ำหอมหลักหรือ "คงที่" อย่างไรก็ตามน้ำหอมเหล่านี้ยังคงเป็นพื้นฐานของความสำเร็จ - หากปราศจากพวกเขาระงับกลิ่นกายก็จะไม่ได้กลิ่นและไม่สามารถปกปิดกลิ่นอื่น ๆ

ทุกวันนี้มีการใช้สูตรระงับกลิ่นกายที่ซับซ้อนมากขึ้นซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการต่อสู้กับกลิ่นด้วย ด้วยเหตุนี้องค์ประกอบจึงมีความซับซ้อนเนื่องจากส่วนประกอบที่มุ่งเน้นในการต่อสู้กับกิจกรรมที่สำคัญของจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดการปรากฏตัวของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์หรือที่ "โภชนาการทางเลือก" สำหรับแบคทีเรียซึ่งเป็นผลให้ไม่หายไป มีตัวเลือกมากมายสำหรับสารเติมแต่งดังกล่าว แต่แอลกอฮอล์ต่าง ๆ มักใช้เป็นยาต้านจุลชีพ

เหงื่อมีความแตกต่างกันโดยพื้นฐานแม้ว่าจะมีกลิ่นที่น่าพึงพอใจ องค์ประกอบที่สำคัญในองค์ประกอบของมันคือ สารประกอบอลูมิเนียม - โลหะนี้มีส่วนร่วมโดยตรงในการป้องกันเหงื่อ เหงื่อแรกปรากฏขึ้นเมื่อประมาณร้อยปีที่แล้วและพวกเขาทั้งหมดมีอลูมิเนียม (บางครั้งเสริมด้วยเพทาย) เป็นตัวแทนที่ใช้งาน - ตลอดเวลาของการพัฒนานักวิทยาศาสตร์ไม่ได้มากับวิธีการแทนที่โลหะนี้ด้วยสิ่งอื่นแม้ว่าพวกเขาจะพยายามหลายสารประกอบ

ในเวลาเดียวกันการใช้สารประกอบอะลูมิเนียมที่ไม่มีองค์ประกอบเพิ่มเติมนั้นไม่สมเหตุสมผลหากเพียงเพราะส่วนประกอบหลักของเหงื่อทั่วไปนั้นค่อนข้างก้าวร้าวต่อผิวหนังและสามารถกระตุ้นอาการแพ้ที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อสัมผัสกับมัน ในส่วนนี้ส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาการกระทำของส่วนประกอบที่สำคัญเช่นเดียวกับการฟื้นฟูและปรับปรุงผิวเพื่อลดผลกระทบ "ด้าน"

นอกจากนี้ดังกล่าวข้างต้น เหงื่อที่ทันสมัยใด ๆ ก็เป็นยาดับกลิ่นซึ่งหมายความว่ามันมีกลิ่นหอมมากมาย ในกรณีส่วนใหญ่พวกเขาได้รับการคัดเลือกเพื่อทำหน้าที่ครอบคลุม - ผู้ผลิตพยายามใช้ส่วนประกอบที่จะได้กลิ่นที่น่าพอใจและฟื้นฟูผิวไปพร้อมกัน

ในที่สุดระบุว่าสาเหตุของกลิ่นเหม็นเป็นแบคทีเรียและเชื้อราได้อย่างแม่นยำ ยังมีส่วนประกอบต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อกำจัดสาเหตุของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์โดยเร็วที่สุด ความหลากหลายของสูตรนั้นยอดเยี่ยมจนอย่างน้อยส่วนประกอบของเหงื่อก็สามารถเรียกได้ว่ามันทำตามข้างบน - ตามประเภทของสาร

ผลกระทบของยาดับกลิ่นแม้ว่าเรากำลังพูดถึงสารที่ซับซ้อนทันสมัยทำงานตามหลักการอย่างใดอย่างหนึ่งที่อธิบายไว้ข้างต้นจะขึ้นอยู่กับการต่อสู้กับกลิ่นเช่น ความสำเร็จนี้ขึ้นอยู่กับสูตรที่แน่นอนของสารและในรูปแบบที่ง่ายที่สุดมีการปิดบังกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์โดยความพยายามของน้ำหอมน้ำหอม ยาประเภทนี้ทำงานโดยการเปรียบเทียบกับน้ำหอม - คนจะได้กลิ่นอะไรบางอย่างแน่นอนเพียงกลิ่นจะน่ารื่นรมย์ยิ่งขึ้น

การพัฒนาสมัยใหม่ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นมีรูปแบบการดำเนินการที่แตกต่างกันโดยพื้นฐาน “ สารอาหารทางเลือก” สำหรับแบคทีเรียที่กล่าวถึงข้างต้นสั้น ๆ ก็คือส่วนประกอบของยาดับกลิ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เป็น "อาหารที่เหมาะสม" สำหรับจุลินทรีย์ที่มีกลิ่น ความจริงก็คือแบคทีเรียจำนวนมากกินส่วนประกอบของเหงื่อซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ หากคุณให้อาหารอื่นที่เลือกมาอย่างเหมาะสมกับพวกเขาผลลัพธ์นี้จะไม่ถูกสังเกตและนี่คือเป้าหมายที่ระงับกลิ่นกาย

ในที่สุด deodorants ที่ทันสมัยบางอย่างมีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งกระบวนการออกซิเดชัน เหงื่อ (อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นเมื่อเราพบว่าส่วนประกอบของแบคทีเรียที่บรรจุอยู่ในนั้น) มีกลิ่นเป็นกรด - มันเป็นของเหลวส่วนประกอบที่ถูกออกซิไดซ์ภายใต้อิทธิพลของจุลินทรีย์

เหงื่อซึ่งมักจะมีความสามารถในการทำหน้าที่ระงับกลิ่นกายอาจมีหลักการข้างต้นของการกระทำเป็นเพิ่มเติม แต่ผลกระทบหลักจะประสบความสำเร็จในวิธีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง. ความจริงก็คือเกลืออลูมิเนียมซึ่งมีอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในเหงื่อใด ๆ เมื่อนำไปใช้กับผิวหนังเจาะลึกลงไปในท่อเหงื่อและพอลิเมอร์ที่นั่นอุดตันค่อนข้างแน่น ด้วยเหตุนี้ต่อมเหงื่อจึงไม่สามารถผลิตเหงื่อได้มากและไม่ไปเกินผิวหนัง

การปิดกั้นต่อมเหงื่อมีประสิทธิภาพมากในการควบคุมเหงื่อออก แต่มันไม่ได้เป็นนิรันดร์ หนังกำพร้าจะถูกลอกออกอย่างต่อเนื่องถูกแทนที่ด้วยเซลล์ใหม่และด้วยความสมบูรณ์ของโพลีเมอร์ที่ลอกออก นอกจากนี้พวกเขาจะถูกชะล้างออกไปในระหว่างขั้นตอนน้ำและสามารถล้างแม้จะมีเหงื่อออกมากถ้าร่างกายมีประสบการณ์การออกแรงทางกายภาพที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ส่วนประกอบของเหงื่อทำหน้าที่ค่อนข้างรุนแรงบนผิวหนังดังนั้นจึงมีบทบาทสำคัญในสารที่เป็นส่วนประกอบที่ออกแบบมาเพื่อสงบและทำให้ผิวที่ระคายเคืองลดลง นอกจากนี้เหงื่อส่วนใหญ่มีชื่อเสียงในเรื่องของผลกระทบที่ซับซ้อน - เนื่องจากสารพิเศษที่ประกอบขึ้นเป็นส่วนประกอบพวกมันไม่เพียง แต่กีดกันแบคทีเรียของอาหารโดยการปิดกั้นเหงื่อ แต่ยังต่อสู้กับการดำรงอยู่ของพวกมัน

ยาดับกลิ่นในขณะที่มันชัดเจนจากด้านบนไม่ได้ต่อสู้กับเหงื่อเช่น - มันจะปกปิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และส่งผลต่อแบคทีเรียที่กระตุ้นการปรากฏตัวของมันด้วยเหตุนี้แม้จะใช้ยาระงับกลิ่นกายคุณจะไม่หยุดเหงื่อออกเหงื่อจะยังคงเหมือนเดิม แต่จะไม่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว พิจารณาหลักการของการกระทำของสารและล้างทำความสะอาดได้ง่าย (โดยเหงื่อเดียวกัน) และสภาพดินฟ้าอากาศ พึ่งพาระงับกลิ่นกายในระยะยาว - เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการใช้งานมันจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ อีกต่อไป

ด้วยเหตุนี้ระงับกลิ่นกายจึงเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเหงื่อออกมากเกินไป พวกเขาใช้สารนี้ในการปิดบังกลิ่นทุกวันและนี่ก็เพียงพอแล้วเนื่องจากไม่มีกลิ่นที่รุนแรงเป็นพิเศษหรือสังเกตเห็นจุดที่เปียกชื้นขนาดใหญ่บนเสื้อผ้าแม้ว่าบุคคลจะลืมใช้ผลิตภัณฑ์

มันเป็นเหงื่อหรือไม่ - เมื่อพิจารณาถึงวิธีการทำงานแล้วอย่าแปลกใจเลยที่ ผลของการใช้งานมักจะนานกว่ามาก ระยะเวลาที่แน่นอนของการกระทำขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีของเหงื่อโดยเฉพาะและขึ้นอยู่กับลักษณะของสิ่งมีชีวิตของคนคนเดียวและขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่เขาอยู่ตลอดเวลาอย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ยแล้วผลกระทบของผลิตภัณฑ์หลังจากการใช้งานหนึ่งครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 3-7 วันโดยเฉลี่ย 5 วัน

อีกสิ่งหนึ่งก็คือการประเมินระยะเวลาของการกระทำนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะของร่างกายของคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์ในขณะที่ผู้ที่มีภาวะ hyperhidrosis ที่ได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการมักจะใช้ยาลดเหงื่อเมื่อร่างกายมีเหงื่อออกมากเกินไป แต่ในกรณีนี้เราสามารถพูดได้ว่าผลิตภัณฑ์ปกป้องไม่เพียง แต่จากกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ แต่จากเหงื่อซึ่งหมายความว่าผิวจะยังคงแห้งและจะไม่รู้สึกไม่สบายเนื่องจากรักแร้เปียก

ให้ทั้งหมดข้างต้น การใช้ยาดับกลิ่นมีความเหมาะสมแม้วันละหลายครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนนำวิถีชีวิต เหงื่ออาจถูกใช้น้อยกว่ามาก - โดยปกติความต้องการดังกล่าวเกิดขึ้นโดยเฉลี่ยทุกๆ 4-5 วัน อีกสิ่งหนึ่งก็คือ ในกรณีที่รุนแรงที่สุดอาจจำเป็นต้องใช้ยากันเหงื่อ 2-3 วันติดต่อกัน

แนวคิดของสิ่งที่“ ดีขึ้น” นั้นสามารถขยายได้อย่างมากและขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่คุณตั้งไว้สำหรับตัวคุณเอง หากงานของคุณคือการลดเหงื่อและกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในตาอย่างมีนัยสำคัญแล้วเหงื่อก็จะมีประโยชน์มากขึ้นแน่นอน เพราะการกระทำนั้นมีพลังและมีประสิทธิภาพมากกว่า อีกสิ่งหนึ่งก็คือการทำเช่นนี้ก็ต่อเมื่อภาวะไขมันในเลือดสูงของคุณมีการ จำกัด วงอย่างชัดเจนในร่างกายและไม่แพร่กระจายไปทั่วพื้นผิวทั้งหมดของผิวหนัง

ความจริงก็คือเหงื่อเป็นบรรทัดฐานสำหรับร่างกายมนุษย์ - นี่เป็นวิธีธรรมชาติในการระบายความร้อนในอากาศร้อนซึ่งใช้เป็นวิธีการเพิ่มเติมในการกำจัดเกลือส่วนเกิน เมื่อคุณรักษาพื้นที่ที่มีปัญหาโดยทั่วไปของผิวหนังด้วยเหงื่อ (บ่อยที่สุดคือรักแร้ฝ่ามือและเท้า) เหงื่อออกจะถูกกำจัดเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับการรักษา แต่การหลั่งเหงื่อไม่ลดลงมากทั่วร่างกาย - ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเริ่มเหงื่อออกอย่างเข้มข้น

นอกจากนี้ฟังก์ชั่นในการลบเกลือบางส่วนจะถูกถ่ายโอนไปยังระบบทางเดินปัสสาวะซึ่งเป็นภารกิจหลัก หากคุณตั้งเป้าหมายที่จะไม่ทำให้เหงื่อออกเหงื่อจะทำให้เหงื่อออก แต่คำถามใหญ่ก็เกิดขึ้นกับร่างกายของคุณเกลือที่ร้อนจัด

จากมุมมองนี้จะเป็นการดีกว่าหากมียาระงับกลิ่นกายซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่รบกวนการทำงานของร่างกายตามที่เห็นว่าจำเป็นอีกสิ่งหนึ่งคือผลลัพธ์อาจดูเหมือนไม่เพียงพอ - คุณต้องใช้ยาดับกลิ่นบ่อยขึ้นและด้วยความร้อนจัดและการออกแรงทางกายภาพที่รุนแรงคุณอาจไม่สังเกตเห็นความแตกต่างแม้ใช้เครื่องมือนี้

สำหรับความปลอดภัยของสารทั้งสองชนิดภัยคุกคามหลักต่อมนุษย์มักจะเป็นไปได้ที่จะเกิดปฏิกิริยาการแพ้ต่อองค์ประกอบใด ๆ ของกองทุนดังนั้น ก่อนใช้งานขอแนะนำให้อ่านองค์ประกอบอย่างละเอียด มิฉะนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่าเหงื่อมีส่วนประกอบเพิ่มเติมที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผิวและแม้ว่าผู้ผลิตสาบานว่าส่วนผสมอื่น ๆ ถอนพิษนี้อย่างสมบูรณ์ผลกระทบผิวที่บอบบางยังสามารถทนทุกข์ทรมานจาก "การดูแล" นี้

วิดีโอต่อไปนี้จะบอกเกี่ยวกับข้อผิดพลาดหลักเมื่อใช้ยาดับกลิ่นและเหงื่อ